First (NO) Bra REMAKE

ด้วยความสบายเป็นที่หนึ่ง และอยากบอกว่าอย่ายุ่งกับนมช้านเป็นที่สอง เราก็เลยไต่เต้าด้วยการโนบราออกนอกบ้านดู พร้อมๆ กับมองหาว่ามีใครเขาโนเรื่องนี้กันบ้าง ซึ่งมูฟเมนต์นี้มีมาอย่างยาวนาน เพราะมันก็เห็นชัดๆ แหละว่าผู้หญิงเราถูกกดทับให้คับอกคับใจภายใต้บราลูกไม้สีสวย ถูกผลักภาระให้เป็นฝ่ายปกปิดมิดชิดเพื่อไม่ให้กระตุ้นกำหนัดของผู้ชาย (ที่อยากกำหมัดถามว่า แล้วทำไมไม่ให้ผู้ชายทำเองละว้อย) หรือถูกตัดสินง่ายๆ ว่าไม่ใส่บราเท่ากับอ่อย ฯลฯ

ทั้งหมดนั่นทำให้ผู้หญิงทั้งโลกต้องตกอยู่ในบรา (เคยเข้าใจว่าฝรั่งจะฟรีเรื่องนมและเสรีภาพของผู้หญิงกว่าเรา-แต่ไม่จริง) และกว่า 80% ใส่บราที่ไม่ฟิตกับนมตัวเองเพราะต้องใส่ตามคัพมาตรฐานที่นมเราต่างไม่มีทางเท่ากัน ส่งผลต่อสุขภาพและการปวดหลังอย่างมีนัยสำคัญด้วย!

เกริ่นยาว, แค่จะบอกว่าถ้าอยากใส่บราก็เพราะอยากใส่ และถ้าไม่อยากใส่ ก็แค่ไม่ต้องใส่ อย่าให้ใครอื่นมายุ่งกับนมของเรา และสำหรับบีกินเนอร์เพิ่งเริ่มโน (แบบเรา) จากการทดลองหลากหลาย และอยากรู้สึกสบายใจกับการโนบราในช่วงแรกๆ เรามีวิธีโนบราด้วยการแมตช์เสื้อผ้า (ในตอนท้าย) และมีวิธีดีไอวายเสื้อผ้าเก่าให้พร้อมโนบราอย่างมั่นใจ ไม่ต้องเดินห่อหลังเพราะยังไม่ชิน

ถ้าตอนเด็กๆ ต้องใส่ First Bra มาหา First No Bra สำหรับตอนนี้กันดีไหม?

สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมอันดับแรก คือใจที่พร้อมจะ No Bra เพราะนอกจากจะต้องแบกรับความเบาหวิว ยังต้องต่อล้อต่อเถียงกับผู้คนรอบข้างบ้าง เช่น แม่ไล่ให้กลับไปใส่เสื้อ แฟนหวงไม่อยากให้ใครมอง หรือกระทั่งสายตาคนอื่นที่ไร้มารยาท  

จะบอกว่าการเลือกวิธี First No Bra แบบเรามีข้อดีคือคนรอบตัวจะไม่ค่อยรู้ เนียนๆ ลดการถกเถียงในช่วงแรกไปได้ และเราเองก็ได้ลองดูด้วยว่าสบายใจที่จะไร้บราจริงๆ หรือเปล่า

ในขั้นตอนการโม จริงๆ มันควรเปิดกว้าง อยากจะทำอะไรก็ทำ หลักการสำคัญคือเน้นแปะปะส่วนที่เรายังไม่อยากให้มันโดดเด่นนัก ซึ่งควรวัดนมตัวเองไปเลยว่าอยากปิดส่วนไหน บางคนหน้าอกเต็มก็อาจจะเริ่มบังตั้งแต่ส่วนเนิน เราอกเล็กก็ขยับลงมาอีกหน่อยก็ได้ จากนั้นก็คิดว่าจะปิด แปะ ปะ ด้วยอะไร ซึ่งวิธีง่ายๆ คือการทำระบายจับจีบ

เราเลือกตัดชายเดรสเก่า เพราะไม่ต้องเย็บริบด้านนึง วัดความกว้างที่ปกปิดได้มั่นใจ ตัดชั้บ ชั้บ (ใครใช้ชายกระโปรงที่ยาวไม่เท่ากันระวังเบี้ยว) ถ้าจะทำระบาย เผื่อความยาวเอาไว้เท่านึง

เราเอาชายกระโปรงที่ตัดมาเนาถี่ๆ เท่าๆ กัน รูดให้เป็นระบาย แล้วสอยกับเสื้อตามแนวที่วัดไว้ ซึ่งเราเย็บแล้วเพลิน มันเบี้ยวเกินตำแหน่งที่ต้องการ เลยไปขุดลูกไม้ที่เลาะจากชุดเก่ามาอีกทีมาแปะเสริมด้านบน ให้ดูมีเลเยอร์หลากหลายสไตล์ญี่ปุ่น (ปลอบใจตัวเอง)

อ่ะดูดี ลองแล้วมิดชิดพอใจ ก็เริ่มตกแต่ง เย็บกระดุม ติดโบ แปะนู่นนี่ตามที่คิดว่าดี (และเอาออกเมื่อชักรู้สึกว่าจะเยอะไป) อันนี้แล้วแต่ชอบใจได้เลย

พอสำเร็จ ก็เอาไปใส่โนบรานอกบ้านได้อย่างสบายใจ ค้นพบอิสรภาพจากอีลาสติกแสนอึดอัดได้สักที!

มันยากที่หญิงไทยผู้ถูกปลูกฝังให้เหนียมนมมายาวนานจะกล้า Free the Nipple ได้ง่ายๆ บางคนแค่หน้าอกใหญ่ยังเผลอหลังค่อมเพราะไม่อยากโดดเด่นเลย เพราะฉะนั้น เราค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ฟรี ด้วยการเลือกเสื้อผ้าไว้โนบราแบบมั่นใจก่อนก็ได้ และนี่คือวิธีที่ช่วยได้มากในตอนเริ่มต้น 

• เซฟสุดคือวิธีเพิ่มเลเยอร์อีกชั้น จะใส่เอี๊ยมคิวท์ๆ เดรสหลายเลเยอร์แบบญี่ปุ่น หรือใส่แจคเก็ตหรือเสื้อคลุมเท่ๆ ก็ได้หมด ถ้าไม่ติดว่ามันหนาและขี้ร้อนน่ะนะ
• สำหรับคนหน้าอกไม่ใหญ่ เสื้อที่มีระบาย จับจีบ หรือเย็บสมอค ก็เพียงพอในการซ่อนจุกแล้วนะ 
• เสื้อกระเป๋าโต 2 ใบ นี่ก็เซฟ ง่าย เหมาะสำหรับคนแต่งตัวสไตล์มินิมอล หรือจะเสื้อสีเข้ม มีลายก็พรางตาได้ดีเลยแหละ
• Wrap dress ก็เวิร์ก พอเราหาเสื้อผ้าไว้โนบราบ่อย ก็พบว่าแค่ผ้าทับกัน 2 ชั้น แม้จะเป็นผ้าบางๆ มันก็ปกปิดได้ดีพอควร หรือเดรสที่ตรงช่วงอกซ้อนผ้าอีกเลเยอร์ไว้ ก็ช่วยได้พอสมควรเลยนะ 
• คอลล่าร์ยักษ์หรือเสื้อปกเบ้อเริ่ม เหมาะกับสายสนุกกับการแต่งตัว
• Silicone Nipple Cover เราไม่เคยใช้ แต่คิดว่าน่าจะเหมาะกับสาวๆ หน้าอกใหญ่ที่การเสียดสีกับเสื้อผ้าทำให้เจ็บ คิดว่าสิ่งนี้ช่วยได้ และน่าจะอายุยาว ใช้ซ้ำได้ดีกว่าแบบสติกเกอร์

สุดท้าย ถ้าจะซื้อเสื้อตัวใหม่ อย่าลืมลองโนบราในห้องลองเสื้อให้มั่นใจก่อนซื้อด้วยล่ะ