ทำไมคุณแม่ฟูลไทม์ ถึงห้ามลืม ‘เวลาส่วนตัว’

เป็นแม่มันเหนื่อยนะ เวลาส่วนตัวจึงสำคัญ

ท่ามกลางบทความและงานวิจัยที่มักพูดถึงประเด็นการเลี้ยงลูก การให้เวลาและความรักความใส่ใจกับลูกเป็นสิ่งที่คนเป็นแม่ (และพ่อ) ต้องรับรู้เพื่อมุ่งสู่การเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดจนอาจหลงลืมเรื่องของ ‘ตัวเอง’ อยู่บ่อยครั้ง การให้เวลากับลูกมากๆ นั้นก็ดีจริง แต่หากมากเกินไปจนทุ่มเททั้งกายใจไปผูกไว้กับลูก ไม่เพียงแต่ลูกจะรู้สึกกดดัน แต่คนเป็นแม่เองก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบเรื่องลูกไว้โดยไม่รู้ตัว นานวันเข้ากลายเป็นความกดดันที่สะสมไว้จนอาจส่งผลต่อสุขภาพใจไม่น้อย 

ทำไมคนเป็นแม่ถึงต้องการเวลาส่วนตัวบ้าง ไม่ใช่เพราะหน้าที่แม่ไม่มีความสุข แต่ชีวิตประจำวันที่วุ่นวายกับภาระของความเป็นแม่อาจทำให้พวกเธอละเลยเวลาที่จะใส่ใจกับความรู้สึกของตัวเอง เช่นเดียวกับที่งานวิจัยจากประเทศอังกฤษพบว่า คุณแม่ส่วนใหญ่มีเวลาส่วนตัวเฉลี่ยเพียง 17 นาทีต่อวัน เท่านั้น

การมีเวลาส่วนตัวของเหล่าแม่ทั้งหลาย นอกจากเป็นไปเพื่อความผ่อนคลายส่วนตัว ช่วยลดความกดดันมหาศาลแล้ว ยังทำให้การตัดสินใจของพวกเธอดีขึ้นอีกด้วย พร้อมกันนั้นยังลดความวิตกกังวล และทำให้ความสัมพันธ์กับคนอื่นดีขึ้นตาม แม่ที่แฮปปี้จะส่งผลดีไปถึงลูกของพวกเธอ เพราะการให้เวลากับตัวเองช่วยในเรื่องของการจัดการอารมณ์ และทำให้คุณเป็นผู้ปกครองที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันลูกก็จะเห็นว่าแม่ให้ความสำคัญกับตัวเองมากพอๆ กับความสำคัญในการเลี้ยงดูพวกเขา สิ่งเหล่านี้มีคุณค่าและเสริมสร้างพลังในการเรียนรู้ของเด็ก เพียงแค่แม่ได้มีเวลาเป็นของตัวเองบ้างนั้นสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกมากมายได้อย่างที่คุณอาจไม่เคยรู้ 

กิจกรรมแฮปปี้ดีต่อใจแม่

กิจกรรมเล็กๆ ที่ทำให้คุณแม่ฟูลไทม์แฮปปี้ได้ง่ายๆ 

ใช้เวลากับเพื่อนรัก 

นานมาแล้วตั้งแต่เข้าสู่ความเป็นแม่ พวกคุณก็ไม่มีเวลาส่วนตัวอีกเลย เมื่อทุกเวลานาทีถูกใช้ไปกับการเลี้ยงลูก จนลืมไปแล้วว่าเจอเพื่อนเก่าครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กัน ชวนหาเวลาว่างระหว่างวันออกไปเจอเพื่อนรัก นัดกินข้าวร้านที่ชอบ จิบกาแฟในร้านบรรยากาศดี พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนที่คุยกันถูกคอ (และอาจเป็นคุณแม่เหมือนกัน) ง่ายๆ แค่นี้ก็อาจทำให้คุณได้รับพลังพร้อมกลับมารับบทแม่เต็มเวลาได้ดีกว่าเดิม  

อยู่คนเดียวบ้างเถอะนะ 

อย่ากังวลว่าตัวเองจะต้องอยู่กับครอบครัวตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 7 วัน เพื่อความเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบ ทำแบบนั้นต่อเนื่องไปนานๆ มีแต่จะเพิ่มความกดดันและความวิตกกังวลให้ตัวเอง คุณแม่ทั้งหลายควรมีเวลาเพื่ออยู่กับตัวเองและประกอบกิจกรรมเพื่อเติมเต็มตัวเองดูบ้าง จะอยู่บ้านเขียนบันทึกประจำวัน หยิบหนังสือสักเล่มไปนั่งอ่านนอกบ้าน ออกไปวินโดว์ช้อปปิ้ง ลองชุดสวยที่เล็งมานาน ต่อด้วยทำสปา ทำเล็บ ทำผม แบบเต็มวัน ถ้าโควิดนี้ไปไหนไม่สะดวก การขอเวลาไปอาบน้ำนานหน่อยแบบปล่อยความคิดให้ลื่นไหลก็เป็นสิ่งที่ชวนทำ

หาเวลานอนเท่าที่นอนได้ 

เรื่องง่ายๆ อย่างการนอนหลับที่มากขึ้น หรือการงีบเล็กน้อยในทุกครั้งที่มีโอกาสจะช่วยเซฟพลังงานให้คุณแม่ และเป็นการฟื้นฟูตัวเองได้เสมอ แทนที่จะพักจากการเลี้ยงลูกด้วยการลุกไปทำงานบ้าน ลองเปลี่ยนเป็นจัดตารางดีๆ ให้ตัวเองพอมีเวลางีบระหว่างวันดูบ้าง 

ทำในสิ่งที่รักและสนใจ

นานเท่าไหร่แล้วที่คุณแม่ไม่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ แถมยังละทิ้งสกิลเดิมที่เคยทำได้ดี มีหลายกิจกรรมเวิร์กช็อปที่น่าสนใจแต่ไม่เคยไปสักที ลองมองหากิจกรรมให้ตัวเองได้ทำเพื่อฟื้นฟูสกิลเดิมที่ถนัดก่อนมีครอบครัว หรือการเรียนรู้สิ่งใหม่เพื่อพัฒนาตัวเอง ทุ่มเทเวลาเท่าที่มีและความสนใจทั้งหมดไปงานอดิเรกดูบ้าง ขุดความสามารถของตัวเองขึ้นมาอีกครั้งเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และความผ่อนคลายอย่างสร้างสรรค์ที่ตัวเองเกือบลืมไปแล้ว 

ออกกำลังกายช่วยได้เสมอ

อย่างที่ใครๆ ก็รู้กันอยู่ (แต่ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง) คือการออกกำลังกายสำคัญกับทั้งกายใจ นอกจากจะช่วยให้มีสุขภาพแข็งแรง ยังเพิ่มความรู้สึกสดชื่นเบิกบาน อยากชวนคุณแม่ทั้งหลายจัดสรรปันเวลามาออกกำลังกายผ่านกิจกรรมง่ายๆ อย่างการเดินเล่น เข้ายิม อยู่บ้านทำโยคะ หรือจะทำสวนหลังบ้านก็ได้ 

[Conscious Tips by ili U] 

ทริกจัดการเวลาที่เหลือ เพื่อ Mommy Me Time 

แบ่งปันงานบ้าน

เอาตารางการทำงานบ้านมาแบแล้วแชร์กันทำกับคนในบ้าน พูดคุยแบ่งปันหน้าที่งานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ให้ลูกด้วย เป็นการสร้างความรับผิดชอบให้กับลูก และคุณแม่เองก็สามารถจัดสรรเวลาสำหรับตัวเองได้ด้วย 

ชวนออกจากความรู้สึกผิด 

ทำความเข้าใจใหม่ว่าการมีเวลาส่วนตัวไม่ใช่ความผิด ไม่ใช่ความบกพร่องในหน้าที่แต่อย่างใด แต่การทำให้ตัวเองมีความสุขนั้นมีความสำคัญต่อการอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวแน่ๆ ลองชวนคนในครอบครัวมาออกจากความรู้สึกผิดนี้ไปด้วยกัน ช่วยกันจัดตารางให้ทุกคนในบ้านได้มีช่วงเวลาส่วนตัวกันทุกคน 

ตื่นก่อนลูก นอนหลังลูก 

ลองตื่นก่อนลูกวันละ 30 นาทีหรือหนึ่งชั่วโมงเพื่อใช้เวลาเล็กน้อยนั้นไปกับกิจกรรมส่วนตัว อ่านหนังสือ เขียนบันทึก หรือคุยกับตัวเอง และพาลูกเข้านอนเร็วขึ้นอีกหน่อยเพื่อใช้เวลาที่เหลือหลังลูกหลับประกอบกิจกรรมทำคนเดียว เปิดดูรายการโปรด ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดื่มไวน์หรือเบียร์สักแก้วก็ยังได้