‘No Bra Tutorial’ ของสไตล์ลิสต์ที่เชื่อว่าใส่หรือไม่ใส่บรา แค่เราพอใจ สายตาคนอื่นก็ไม่สำคัญ

เบื้องหน้าของอาย คือสไตล์ลิสต์ที่คิดและครีเอตเสื้อผ้าให้กับ mv เพลงดัง ไปจนถึงโฆษณามานับไม่ถ้วน ส่วนในทุกวันที่ออกกองเธอก็สนุกกับการสไตล์ลิ่งเสื้อผ้าหน้าผมให้ตัวเองพร้อมออกไปทำงาน โดยไม่ง้อบราตัวน้อย

หลังเห็นแฟชั่นความมั่นใจ และความสนุกในการแต่งตัวของอายผ่านอินสตาแกรมทุกวัน เนื่องในวัน National No Bra Day เราเลยขอชวนเธอมาเล่าเรื่องการประกาศอิสรภาพทางการนม

ชวนเพื่อนใช้จริงมาแบ่งปัน No bra Tutorial สำหรับใครๆ ที่อยากเข้าลุกเข้าสู่วงการโนบราและสนุกกับการแต่งตัวแบบเธอ

อายบอกว่าจากประสบการณ์แล้ว จริงๆ การใส่บราทำให้ใส่เสื้อผ้าสวยกว่า เพราะมันช่วยเสริมรูปร่าง ทำให้เห็นทรวดทรงชัดเจน คนที่อกเล็กก็จะทำให้มีโครงของฟองน้ำมาช่วย ส่วนคนที่อกใหญ่บราก็จะช่วยซัพพอร์ตให้ดูเป็นเต้าสวยๆ แต่เพราะโดยทั่วไปแล้วการใส่บราทำให้อึดอัดและร้อน เธอจึงไม่ได้ใส่บราที่มีโครงหรือมีฟองน้ำ เพราะไม่ได้รู้สึกว่าในชีวิตประจำวันจะต้องเน้นทรวดทรงขนาดนั้น

“การเลือกใส่บราหรือไม่ใส่บราของเรา อยู่ที่ว่าวันนั้นเราอยากรูปร่างแบบไหนมากกว่า บางทีใส่เสื้อเกาะอก รัดรูปมากๆ ถ้าเราอยากดูให้หน้าอกมี curve หรืออึ๋มหน่อย เราก็จะใส่บราฟองน้ำ”

อายแชร์ว่าเธอเองก็เพิ่งมาคอมฟอร์ตกับการ No Bra ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมานี่เอง ก่อนหน้านี้เธอก็เริ่มจากการใช้ที่แปะจุกก่อน โดยแปะจุกที่เธอใช้มี 3 แบบหลักๆ คือ แปะจุกแบบมีและไม่มีกาว และบราปีกนก

“แปะจุกแบบมีกาวเราว่ามันเหนียวดี แต่ข้อเสียคือเหม็นอับ และกาวก็อาจจะไม่ได้ธรรมชาติเท่าไหร่ที่จะแปะตัว เราเคยซื้อแบบกาวไม่ดี มันก็จะเหนียวติดนม เป็นคราบ” อายบอก พร้อมแนะนำว่าปกติเธอมักใส่กับเสื้อเชิ้ตแบบเปิดๆ หรือใส่กับเดรสที่ไม่ได้มีแขนเสื้อมากนัก

ส่วนแปะจุกแบบไร้กาว อายบอกว่าข้อดีของมันคือไม่มีกาวเหนียวคอยกวนใจ รู้สึกสะอาดและให้ความรู้สึกที่ดีกว่า แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ชอบแบบมีกาวที่ให้ความรู้สึกติดแน่นหนึบมากกว่าอยู่ดี

“บราแบบปีกนกจะรองรับเต้าได้ดี มีทั้งแบบซิลิโคน ผ้าที่มีกาวติด บางอันก็มีสายรูดช่วยดัน ข้อดีคือช่วยซัพพอร์ตให้หน้าอกดูเหมือนใส่บรามากขึ้น แต่ยังใส่เสื้อเปิดหลังได้อยู่ เราก็จะชอบใส่กับเสื้อบอดี้สูท ชุดเปิดหลัง หรือเสื้อที่อยากให้ตัวเองดูมีนม แต่ใส่ไม่ค่อยบ่อยเพราะข้อเสียคือบางทีมันชอบแลบมาตรงรักแร้”

“แต่เดี๋ยวนี้เน้นถอด” อายว่าพร้อมหัวเราะ บอกเหตุผลว่าการต้องใส่บราทำงานมันทั้งเหนื่อย ทั้งอึดอัด เพราะเธอต้องทำงานเอาต์ดอร์ทั้งวัน

“ทุกคนกลับบ้านก็ต้องถอดยกทรงกันหมด มันไม่มีหรอกที่วันนี้ใส่สบายเหมือนไม่ใส่ และเรามองว่าการไม่ใส่บราคือสุขภาพที่ดีนะ เราไม่ได้ไปฝืนทรง ไม่มีอะไรไปกดโครง มันก็สบายกว่า แต่ของแบบนี้ก็อยู่ที่แต่ละคนว่าการใส่หรือไม่ใส่แบบไหนเหมาะกับสรีระของเขามากกว่า แต่สำหรับเราจะใส่หรือไม่ใส่ก็รู้สึกเหมือนกัน อาจจะเพราะเราหน้าอกเล็กด้วยก็เลยไม่ได้กังวลกับสิ่งนี้”

แม้ไม่กังวลกับการต้อง No Bra แต่เธอก็ยอมรับว่าหลายๆ ครั้ง มีสายตาสอดส่องมา ยามเธอไม่ใส่บราเช่นกัน

“ตอนไปออกกองบางทีเราร้อนมากก็เลยถอดเสื้อในทำงาน หรือบางทีใส่คอเซ็ตที่ต้องโชว์เสื้อชั้นในทั้งตัว เราก็รู้สึกว่าแบบนั้นก็ใส่แล้วสวยดี แต่บางทีก็จะมีคนมองมาเหมือนกัน แต่เรารู้สึกว่าก็แค่ต้องทำสิ่งนี้ให้มันปกติ เวลาก้มเลยจะไม่ได้สนใจแล้วว่าใครจะเห็นหรือไม่เห็น

“พอคิดแบบนั้น หัดที่จะไม่สนใจว่าใครจะว่ายังไง มันก็ทำให้สบายใจที่จะออกไปข้างนอก กล้าโชว์นมน้อยๆ ของเรา ถ้าบอกว่าไม่เขินก็ไม่จริงหรอก แต่เราเลือกแล้วว่าจะใส่แบบนี้ คนอื่นก็ไม่มีสิทธิมาพูด มา judge ร่างกายเรา”

อายมองว่าการจะใส่หรือไม่ใส่บรา สิ่งสำคัญลำดับแรกคือทุกคนอยากมองเห็นตัวเองเป็นแบบไหน แค่ you know yourself มันก็มากพอแล้ว คนอื่นที่มองหรือมา harass มันก็เท่านั้น

“แต่การโนบรา เราก็อยากรู้สึกคอมฟอร์ตทั้งกายและใจนะ ในเมื่อการที่เราคอมฟอร์ตกายแล้วจากการไม่ใส่บรา มันก็ควรคอมฟอร์ตใจด้วย ไม่ควรมีใครมาทำให้เราไม่สบายใจ”