ต้องเข้าใจก่อนว่าฟาสต์แฟชั่นนั้น ‘ฟาสต์’ มาตั้งแต่กระบวนการผลิตแล้ว ไม่ใช่นับแค่อายุการใช้งานของเราอย่างเดียว มันเริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนคอลเลกชั่นบ่อยๆ (บางแบรนด์เปลี่ยนกันรายสัปดาห์) ผลิตตามเทรนด์ทีละเยอะๆ ซึ่งอาจเชื่อมโยงไปถึงการจ่ายค่าแรงราคาถูก ไม่เป็นธรรมต่อผู้ผลิตตัวเล็กตัวน้อย และหลายครั้งการผลิตจำนวนมหาศาลนี้ยังทำลายสิ่งแวดล้อมขนาดหนัก เพราะแบรนด์พวกนี้เขาอยากจะเน้นขายปริมาณมาก ราคาถูก เพื่อให้พวกเราได้ซื้อเสื้อผ้าในจำนวนเยอะๆ ด้วยเช่นกัน
และระบบแฟชั่นแบบนี้จะยิ่งฟาสต์ขึ้นไปอีก เมื่อการใช้งานของเราแสนสั้น ซื้อมา ‘ใส่แป๊บเดียวก็ทิ้ง’ ใส่นิดๆ ก็เบื่อ สุดท้ายมันจึงกลายเป็นขยะก่อนวัยอันควร ดังนั้นหากเรามีส่วนในข้อหนึ่งหรือข้อสอง ยังไงเราก็ยังเป็นส่วนเล็กๆ ในการสนับสนุนวงการฟาสต์แฟชั่นอยู่ดี
แต่ก็อย่างที่รู้ การอุดหนุนแบรนด์สโลว์แฟชั่นแต่ละทีนั้นอาจมีข้อจำกัด เพราะราคาที่สูง และตัวเลือกของสโลว์แฟชั่นที่อาจมีให้เลือกเหมาะกับตัวเองน้อยกว่า ดังนั้น ก็อย่าเพิ่งโทษตัวเองเลยหากเรายังจำเป็นต้องพึ่งระบบเหล่านี้ ทางที่ดีเราจึงควรสโลว์อายุการใช้งานของเสื้อผ้าแต่ละตัวให้ได้นานที่สุด (ไม่ว่าพวกมันจะเป็นแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นหรือไม่ก็ตาม) ลดการซื้อแบบไม่จำเป็นให้เหลือน้อยที่สุดด้วย เพราะจากงานวิจัยของอังกฤษระบุว่า การยืดอายุเสื้อ 1 ตัวให้อยู่ได้นานขึ้นอีกปีแบบไม่ต้องซื้อใหม่ เราจะลดมลพิษที่สร้างให้โลกนี้ได้ตั้ง 20-30 เปอร์เซ็นต์เลย
อีกหนึ่งทริกที่ช่วยเพิ่มความสโลว์ขึ้นอีกนิด ก่อนเข้าร้านไหนเช็กให้แน่ใจว่าแบรนด์นั้นยังใส่ใจแรงงานและสิ่งแวดล้อมในระดับโอเค และถ้าผ่านเกณฑ์ในใจแล้วก็อย่าลืมว่า แบรนด์ที่เราอลืกต้องไม่เป็นสุดยอดนักก็อปด้วยนะ!
ก่อนหยิบใส่ตะกร้า ถามตัวเองดีๆ อีกครั้งว่าเราจะอยู่กับเสื้อผ้าตัวนี้ได้นานแค่ไหน ถ้าซื้อมาจะใส่คู่กับอะไรได้หลากหลายหรือเปล่า ไม่ใช่สุดท้ายทิ้งให้นอนอยู่ก้นตู้แบบเศร้าๆ หรือในวันที่เสื้อหรือกางเกงตัวนั้นพัง เราก็พร้อมจะพาน้องไปชุบชีวิตใหม่ให้ใส่ได้อีกครั้ง ถ้าคำตอบคือใช่แล้วล่ะก็ ลองเช็กเนื้อผ้า การตัดเย็บ และกระดุมสำรองให้ดีอีกที หากคุณภาพเสี่ยงพังในเวลาอันรวดเร็ว ลองมองหาทางเลือกจากแบรนด์อื่นที่คุ้มค่า คุ้มราคากว่าก็ไม่เสียหลาย
สุดท้าย หากเสื้อผ้าที่ซื้อมา เราใส่มันนานพอจะหมดอายุทางใจกันแล้วจริงๆ ก็อย่าเพิ่งโยนทิ้งลงถังขยะดื้อๆ ขอให้พวกมันได้ไปต่อในปลายทางที่สโลว์ที่สุดด้วยยิ่งดี ถ้าเสื้อผ้าเหล่านั้นยังมีสภาพดีลองส่งต่อให้องค์กรต่างๆ ที่ต้องการก็ได้ หรือจะเก็บไว้ให้ญาติพี่น้อง เอาไปขายกับร้านเสื้อมือสอง (ได้เงินด้วย) หรือเก็บไว้ swap สนุกๆ ก็ปังอยู่ บอกเลยว่าทางเลือกยังมีอีกเยอะ แต่ถ้าเสื้อตัวไหนสภาพเยินเกินเยียวยา ดีที่สุดก็ขอให้แยกพวกมันเอาไว้ เก็บใส่กล่องแล้วส่งต่อไปให้ N15 ทำเชื้อเพลิง เราจะได้จบลูปฟาสต์แฟชั่นนี้ได้อย่างสโลว์และมีประโยชน์มากที่สุด
ถึงจะมีทางเลือกในการช้อปไม่มาก แต่ทางเลือกในการต่ออายุยังมีอีกมากมาย ซื้อเสื้อคราวหน้าอย่าลืมนึกถึงเรื่องเหล่านี้ดีๆ อีกทีนะ แล้วอย่าลืมรอติดตาม ‘สาระสำคัญ FAQ’ กันใหม่ เมื่อมีประเด็นที่น่าสนใจในคราวหน้า
Read More:
ความลับที่ พส ซ่อนไว้…
ทำไมเกิดเป็นหญิง ถึงต้องซ่อนสิ่งเหล่านี้
วิธีคลายกังวล ในวันที่ใจกำลังไม่ไหวแล้ว
It's okay to feel worried
เขื่อนเพื่อฉัน? ฝันเพื่อใคร?
เขาบอกว่าเขื่อนไม่ดี แล้วทำไมปี 2021 ใครบางคนยังอยากได้เขื่อนอยู่อี้ก (เสียงสูง)