แทนที่จะมาโฟกัสกับตัวเอง ลองย้ายไปโฟกัสกับสิ่งที่อยากทำให้คนอื่นดู ทั้งคำพูด และการกระทำ ที่จะช่วยให้เราได้มองเห็นคนอื่นมากขึ้น ซึ่งในทางจิตวิทยาเมื่อเรารู้สึกว่าสิ่งที่ทำมีประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ เราจะมองเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น ซึ่งตรงนี้แหละเป็นสิ่งที่สร้างพลังเอาไว้ให้คนรักงานต่อกรกับเช้าวันจันทร์ชั้นดี โดยส่วนใหญ่จะแยกเป็น 2 วิธีให้ลองทำ ดังนี้
#ส่งประโยคฮีลใจให้ใครสักคนในเช้าวันจันทร์ ซึ่งอาจจะมาเป็นคำพูด ประโยคสั้นๆ ทักทายถามไถ่ป้าแม่บ้านที่ออฟฟิศ reply เพื่อนในทวิตเตอร์ที่กำลังท้อใจในเช้าวันจันทร์ คอมเมนต์ตอบกลับโพสต์ในเฟสบุ๊ค เป็นประโยคสั้นๆ ที่พอจะสร้างพลังบวกเล็กๆ ในเช้าวันจันทร์ให้ใครบางคนได้บ้าง (พลังบวกแบบโพซิทีฟนะ ไม่ใช่บวกแบบหัวร้อน) เอาจริงวิธีนี้ก็แอบทำงานเหมือนการส่งภาพสวัสดีวันจันทร์ของแม่ๆ ป้าๆ ที่เขาส่งให้กันเหมือนกันนะนี่
#ทำสิ่งที่ไม่เคยทำให้กับคนอื่น หลายบทความแนะนำว่าให้ลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำกับคนอื่น เช่น ลองจ่ายค่ากาแฟให้คนแปลกหน้าระหว่างเดินทางไปออฟฟิศ ตื่นเช้ามาทำอาหารหรือดริปกาแฟร้อนไปแบ่งเพื่อนที่สำนักงาน ลองทำสิ่งที่เป็นการกระทำที่ไม่ได้ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวใครมาก และเราเองก็ยังสะดวกใจจะทำได้
สิ่งที่เราเคยลองทำคือ ส่งประโยคไนซ์ๆ ไปให้คนอื่น ด้วยความที่มีร้านกาแฟโปรดที่ชอบสั่งเดลิเวอรี่ตอนเช้าวันจันทร์ก่อนไปทำงาน เลยโน้ตประโยคสั้นๆ ไปในออเดอร์อย่าง ‘วันนี้ขอให้เจอแต่ลูกค้าน่ารักๆ นะคะ’ แค่อยากส่งไปไม่หวังร้านตอบกลับ แต่หลายครั้งร้านก็จะพิมพ์โน้ตน่ารักกลับมาในใบเสร็จ เช่นล่าสุด พิมพ์ไปว่า ‘Have a nice day na ka’ ร้านพิมพ์ตอบมาว่า ‘Have a nice day too ka <3’ (มีใบเสร็จยืนยัน inbox มาขอดูได้!) เท่านี้ก็รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจในเช้าวันจันทร์นิดนึงแล้ว
ใครลองเอาวิธีไหนไปใช้ แล้วได้ผลอย่างไรแวะมาบอกกันบ้างนะ!
Read More:
รีวิวยกออฟฟิศไปเวิร์กช็อปศิลปะบำบัดที่ Studio Persona
เมื่อ ili ยกออฟฟิศ (ที่มีกันแค่ 6 ชีวิต) ไปสตูดิโอศิลปะบำบัด
work from home ยังไง ให้งานยังเวิร์ก!
วิธีทำงานให้รอดและอยู่อย่างปลอดภัย เมื่อต้อง work from home
บันทึกวันไร้แพสชันที่สรุปได้เองว่า ก็อยู่ได้ไม่ตายนี่แก
ทางออกในวันไร้แพสชันแบบฉบับมนุษย์ที่อยากเป็นเพื่อน(ที่แสนใจดี)กับตัวเอง