ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่รู้สึกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ 2 วันมันไม่เคยสาแก่ใจ เพราะงานยังโผล่มายืนเจ๋อเป็นเพื่อนในวินาทีที่ยืนรอคิวช้อปปิ้งในห้างฯ หรือแว่บมานอนเคียงข้างในวินาทีที่นอนกลิ้งมองเพดานอยู่บนเตียง แถมนอกจากงานที่แปลว่างาน ยังมีงานที่เรียกว่างานบ้านและงานบริหารความสัมพันธ์ที่รออยู่ใน to-do list อีกต่างหาก พอตกบ่ายวันอาทิตย์ก็ทอดถอนใจ ทำไมเสาร์อาทิตย์ผ่านไปเร็วจัง ต่อให้นอนตื่นเที่ยงแล้วก็เหอะ ก็ยังรู้สึกพักผ่อนเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ, สวัสดีค่ะ เราคือเพื่อนกัน!
ปล่อยให้งานรับบทเป็นผีที่เฝ้าหลอกหลอนในบ่ายวันอาทิตย์อยู่พักใหญ่ จนวันหนึ่งไปอ่านเจอบทความของฝรั่งเข้า เขาบอกว่าที่เราเหนื่อยเรื้อรังอยู่นั่นจนไม่พร้อมไปทำงานวันจันทร์ อาจเป็นเพราะเราไม่เคยเข้าใจว่า ‘การนอนและการพักผ่อนไม่ใช่เรื่องเดียวกันจ้ะ’ แถมตอกย้ำอีกว่า ‘เพราะเราพลาดการพักผ่อนประเภทอื่นๆ ที่มากกว่าแค่การนอนไปหมดเลย เราจึงไม่เคยเข้าถึงพลังแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริงได้สักที’
ชีวิตคนวัยทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มคนอยู่ในวัยกลางๆ 30 กว่าๆ อย่างเราน่ะ ต้องการการพักผ่อนถึง 7 แบบ อันประกอบด้วย
- Physical rest พักผ่อนทางกาย เช่น นอน โยคะ ยืดเหยียด เบสิกอย่างที่เรารู้ๆ กัน และมักเข้าใจว่าทำมันแค่อย่างเดียวก็ได้
- Mental rest พักผ่อนทางใจ ในที่นี้คือการหาเวลาพักสั้นๆ คลายเครียดในระหว่างวันซะบ้าง กำหนดไว้ที่ทุกสองชั่วโมงก็ได้ ไม่งั้นจะกลายเป็นคนทำงานที่ขี้หงุดหงิดและสุดแสนจะสมาธิสั้นไปซะก่อน
- Sensory rest พักประสาทสัมผัสที่เราใช้โฟกัสมาทั้งวัน ไม่ว่าจะจ้องจอ หูฟัง มือพิมพ์ อย่าลืมหาเวลาหลับตาสักครู่ ดึงปลั๊กตัวเองออกมาจากความวุ่นวายให้ได้ทุกวัน โดยเฉพาะช่วงเวลาก่อนนอนที่ค่อนข้างสำคัญ
- Creative rest เติมธรรมชาติ ศิลปะ หรือสร้างบรรยากาศให้ตัวเองอยู่ในอะไรที่สร้างสรรค์ เป็นฝ่ายระดมไอเดียให้งานทั้งวัน ต้องเติมกลับบ้างแล้ว
- Emotional rest การพักผ่อนทางอารมณ์ คือการยอมให้ตัวเองให้ซื่อตรงกับความรู้สึกบ้าง เลิกเอาใจเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานแบบยังอยู่บนฐานเหตุผล ก็ไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป
- Social rest ซื่อตรงกับตัวเองแล้วบางทีก็ต้องการคนรับฟัง การพาตัวเองไปรายล้อมในสังคมที่ไม่ทอกซิกและซัพพอร์ตกันได้อย่างจริงใจ ก็เป็นการพักผ่อนเช่นกัน และสุดท้าย
- Spiritual rest การพักผ่อนทางจิตวิญญาณ เดี๋ยวนี้มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้เราเข้าถึงการรัก ยอมรับ และเข้าใจตัวเอง ไม่ว่าจะทำสมาธิเองอยู่บ้าน วิ่ง ฝึกหายใจ หรือออกไปอาบป่า ก็สำคัญกับชีวิตนะเออ
ถึงตรงนี้ ในใจก็เถียงแหละว่าจะเอาเวลาไหนไปท้ำ! แต่หลังจากที่ลองทำความเข้าใจและเอามาปรับใช้กับตัวเองดูบ้าง ก็พบว่าเราไม่ต้องพักให้ครบ 7 แบบในทุกวันเพียงเพื่อให้หายเหนื่อยก็ได้ แค่ไม่ลืมใส่ตารางชีวิตให้กับการพักผ่อนง่ายๆ ที่หลากหลายก็พอ เช่น ตื่นเช้าขึ้นอีกนิดให้มีเวลายืดเหยียดหลังตื่นนอน / นั่งนานเกิน ลุกออกไปเดินบ้าง / กำลังจะกลับบ้านขอแวะไปสวนหน่อย / หาเวลาไปกินข้าวกับเพื่อนให้ได้บ่อยๆ / จัดตารางให้ได้วิ่งสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เป็นต้น
เลิกโทษผีวันจันทร์ นอนอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบ แต่บางครั้งอาจเป็นตัวเราเองที่ยังเข้าใจคำว่าพักผ่อนในแต่ละวันอย่างไม่ลึกซึ้งพอก็ได้ ลองทำตามเทคนิคนี้ดู ช่วงแรกอาจจะยังเหนื่อยอยู่ แต่มาสู้ไปด้วยกันนะเหล่าคนรักงาน!
Read More:
work from home ยังไง ให้งานยังเวิร์ก!
วิธีทำงานให้รอดและอยู่อย่างปลอดภัย เมื่อต้อง work from home
คุยกับ 4 เจ้าของโต๊ะทำงานที่ใช่ ในวัน Work From Home
In a Relationship with My Workstation!
งานที่ดี คือ งานที่_________
งานที่ดีคืองานแบบไหน ลองมานิยามกันดูไหมให้การทำงานเวิร์กขึ้น!