“เราเคยอ่านเจอที่เขาบอกว่าการจะตัดสินใจว่าจะลาออกหรือไม่ลาออก ให้ดูสามเรื่องคือ เงิน งาน และคน ตอนแรกสามขานี้มันยังยึดเราไว้ได้ ยังมีเพื่อนร่วมงานที่ดีมาก มีหัวหน้าที่เปิดโอกาสให้เราได้แสดงศักยภาพของตัวเอง มีงานที่แม้เงินจะไม่ได้ดีเพราะเป็นธุรกิจเพื่อสังคม แต่เนื้องานมันก็ชุบชูจิตใจ ได้ทำเกี่ยวกับเมืองและชุมชน เป็นงานที่ทำแล้วเกิดอิมแพ็กและสร้างประโยชน์กับคนอื่นได้จริง แต่พอมีโควิด สามเรื่องนี้มันดันหายไป ระบบการทำงานที่เปลี่ยนไปทำให้เรากดดัน รู้สึกว่าทำเท่าไหร่ก็ไม่ดีสักที เพราะมันเป็นการทำงานแบบไม่มีสโคปออฟเวิร์ก เราไม่เคยจำกัดความได้ว่ากำลังทำตำแหน่งอะไร ต้องเปลี่ยนหน้าที่ไปเรื่อยๆ ได้รับมอบหมายงานอะไรมาก็ต้องทำสิ่งนั้นให้ได้ กลายเป็นต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้อยากทำมากขึ้น ช่วงนั้นร้องไห้ทุกวัน ไม่อยากตื่นมาทำงานเลย
“สำหรับเราความรู้สึกว่าไม่อยากตื่นมาทำงานมันเป็นความรู้สึกที่โคตรแย่ เพราะเราเคยเป็นคนที่เอนจอยกับมันมาก พอชั่งน้ำหนักดูก็เลยตัดสินใจว่าลาออกดีกว่า ออกเลยแบบไม่มีงานมารองรับ อนุญาตให้ตัวเองได้อยู่ว่างๆ เป็นการบูสต์ตัวเอง เพราะตอนนั้นมันแย่มาก เหมือนคนวิ่งมาราธอนมาตลอดไม่ได้หยุด จนข้างในบอกว่าพักได้แล้ว พักเหอะ ยังไงก็หางานทำในตอนนั้นเลยไม่ได้หรอก ต้องให้เวลาตัวเองพักก่อน
“พอหยุดแล้วถึงเข้าใจคำว่าฟรีดอม (หัวเราะ) สนุกมาก ไม่เคว้งเลย เหมือนพอได้พักจนพอใจเราเลยมีแรงลุกขึ้นมาทำสิ่งที่เคยอยากทำแต่ไม่มีเวลาได้ทำสักที เปิดเพจ ทำยูทูบ มีเวลาอ่านหนังสือ ถึงจะบอกว่าหยุดพัก แต่ในขณะเดียวกันเราก็ยังทำงานฟรีแลนซ์ไปด้วยนั่นแหละ ยังไงเราก็อยู่ในโลกทุนนิยม ต้องหาเงินอยู่ดี”
“ตอนนี้เรากำลังทำคาเฟ่ที่ชื่อ Re__coffee อยู่กับเพื่อนสนิท เป็นความคิดของเพื่อนเราที่อยากเปิดร้านกาแฟ ส่วนเราเองก็รู้สึกอยากนำสิ่งที่เราเคยทำในงานเก่า มาพัฒนาให้เมืองดีขึ้นเหมือนกัน
“สมุทรปราการสำหรับเรามันคือความย่ำแย่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จริงๆ คาเฟ่นี้มันเกิดจากการที่เราไม่รัก ไม่ภูมิใจในการเป็นคนที่นี่ เวลาคนถามว่าเราอยู่ที่ไหนเราไม่เคยพราวลี่พรีเซ้นต์บ้านเกิดตัวเองเลย เพราะเรารู้ว่าเมืองมันแย่ขนาดไหน การเมืองท้องถิ่นทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก เมืองเรามันไม่มีอะไรเลย เราก็ต้องเข้ากรุงเทพฯ ไปหาความเจริญ หาความครีเอทีฟ ดนตรี ศิลปะ ทั้งๆ อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่ทำไมการจะเข้าถึงศิลปะถึงต้องมีค่าใช้จ่ายขนาดนั้น
“เราคิดว่าศิลปะควรกระจายออกมาจากเมืองหลวงได้แล้ว เราเลยอยากทำให้ Re__coffee เป็นทั้งร้านกาแฟ เป็นสเปซ เป็นคอมมูนิตี้ที่สมุทรปราการก็มีได้ เราเชื่อว่าถ้าเราเชื่อมคนมาเจอกันได้บ้านเราก็น่าจะเกิดอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา เราว่ามันมีคนที่มีไอเดียอยู่แล้ว แค่ยังไม่มีใครเริ่ม ยังไม่มีใครมาจับเข่าคุยกันว่าเมืองมันแย่ แต่เราจะทำยังไงกันดี เพราะคนก็ไม่ได้คิดว่าฉันทำได้ ทุกคน give up กับมันไปแล้ว แต่เรารู้สึกว่าถ้าไม่ทำ มันก็จะเป็นอย่างนี้ต่อไป
“เอาจริงๆ วันที่ตัดสินใจทำก็มีมุมที่กลัวนะ ไม่ได้กล้าไปซะหมด มีความคิดว่าจะทำได้จริงเหรอ แต่กลัวไปก็ไม่ได้อะไร สู้ลงมือทำไปให้มันเกิดขึ้นจริงก่อนดีกว่า
เราคุยกับเพื่อนตลอดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จ หรือเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเราจะทำ ยังไงก็ต้องมี next step ของแต่ละคน แต่ถ้าตอนนี้รู้สึกว่าอยากทำ ก็ต้องทำ เอาสักตั้ง
“ตอนนี้ก็เกินฝันอยู่นะ สำหรับเราแค่มีลูกค้ามาก็ดีใจแล้ว แต่ตอนนี้มันเริ่มเกิดคอมมูนิตี้จริงๆ มันเป็นเหมือนเมจิกโมเมนต์เลย ที่เห็นคนหันมาคุยกัน เห็นอีเวนต์ดนตรีเกิดขึ้นในร้านของเรา รู้สึกว่าดีจังเลย นี่แหละที่อยากได้
“จริงๆ สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้เราก็ทำเพื่อตัวเองนั่นแหละ เราอยากมี อยากเป็นยังไง เราก็ทำให้มันเกิดในพื้นที่บ้านของเรา ถ้าเมืองมันดีขึ้นได้จริงๆ ยังไงคนที่อาศัยในพื้นที่นี้อย่างเรานี่แหละที่ได้ประโยชน์
“การตัดสินใจลาออกแล้วมีโอกาสได้ทำร้านนี้ขึ้นมา คือสิ่งที่เราแฮปปี้มาก มันทำให้เราได้ทำงาน ได้เอนจอยกับเพื่อน ได้เห็นสิ่งที่ตัวเองคิดที่อยู่ในหัวค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นในแต่ละวัน สนุกที่ได้คิดนู่นคิดนี่มาเติมห้องคูหาแห่งนี้”
Read More:
หมา-นุษย์ สัมพันธ์ เคาะประตูหาเพื่อน (สี่ขา) ข้างบ้าน ili
ออฟฟิศ pet-friendly ที่เงยหน้าจากงานปุ๊บ ก็เยียวยาใจปั๊บ
a day #233 ใครไม่แคร์ คนทำแคร์
บันทึกการแคร์โลกในแบบของกลุ่มคนทำคอนเทนต์
มันคงเป็น KRAM รัก เมื่อของพรีเมียมองค์กรก็มี 'คราม' ใส่ใจโลก
ของพรีเมียมองค์กรที่ย้อม ‘คราม’ ใส่ใจโลก ให้คนในก็รัก คนนอกก็เลิฟ