Menu 01:
ผักโขมกับไข่สามอย่าง / บุญตงกี่
บุญตงกี่อาจจะเป็นร้านที่หลายคนโปรดปรานข้าวมันไก่สิงคโปร์ หรือตั้งใจซื้อดีลไปกินบุฟเฟ่ต์มหากาพย์ไก่สิงคโปร์ให้พุงกาง แต่สำหรับเราเมนูเด็ดของที่นี่ไม่ใช่ข้าวมันไก่ แต่คือเมนูที่มีชื่อว่า ‘ผักโขมกับไข่สามอย่าง’ ที่เราสั่งครั้งแรกด้วยความอยากรู้ แต่พอได้กินแล้วก็ว้าวออกมาว่าการเอาไข่เยี่ยวม้า ไข่เค็ม ไข่ต้ม มารวมกันแล้วมันดีได้ขนาดนี้เลยเหรอ
ตัดภาพมาที่ร้านบุญตงบี (ตั้งชื่อเลียนแบบ) ก็ #ก็อปเกรดบี ออกมาได้ค่อนข้างประทับใจ แม้จะใช้ผักโขมแบบไทยๆ ไข่ต้มจะดูเละกว่าเพราะเอาทัพพีกวนในหม้อเยอะไปหน่อย แถมยังเติมเต้าหู้เข้าไปให้หน้าตามันรุงรังกว่าเดิม แต่รสชาติเราว่าเอาเรื่องให้หายคิดถึงได้อยู่ เมนูนี้เหมาะกับลูกคนจีนอย่างฉันที่ชอบของต้มๆ แต่ขอตัดจืดในทุกคำที่ตักเจอไข่เค็ม!
ความเหมือน
- หน้าตา 2/5
- รสชาติ 4.5/5
Menu 02:
ไข่ห่อนัตโตะ / ยามะจัง
อีกครั้งที่อินดี้ แม้ว่าเมนูขายตายของร้านยามะจังคือปีกไก่ทอดสูตรเผ็ดพริกไทย (ที่ต้องสั่งเบิ้ลจนเกินอิ่มตลอด) แต่เมนูที่เราคิดถึงจนอยากทำเองคือเมนูง่ายๆ ที่เราสั่งมากินคู่กับไก่ทอดทุกครั้ง ซึ่งก็คือไข่ห่อนัตโตะ ตอนทำก็คิดว่ามันจะยากอะไร ก็แค่เอาไข่มาตี แล้วเอานัตโตะที่ซื้อมาโยนลงไป ตัดภาพไปกลายเป็นไข่เจียวจ้า!
ความเหมือน
- หน้าตา 1/5
- รสชาติ 3/5
Menu 03:
มาม่าโอ้โห / เจ๊โอว
เมนูมาม่าหม้อใหญ่เงื่อนไขเยอะ แต่สุดฮิตแห่งร้านเจ๊โอว บรรทัดทอง ที่เปิดขายเวลาห้าทุ่มเท่านั้น ต้องโทรจองที่นั่งก่อน แต่ไปถึงก็ยังอาจต้องรออีกเป็นชั่วโมง ความฟินของการก็อปเมนูนี้คือเราสามารถกินมันได้โดยไม่ต้องผ่านเงื่อนไขความอดทนใดๆ ข้างต้นเลย เพียงแค่หาหม้อใบใหญ่ที่สุดในบ้าน (แบบไม่ต้องเน้นสวย) หามาม่าที่มีในบ้าน (เจอแบบเส้นใหญ่ต้มยำน้ำข้น) แล้วก็เตรียมเครื่องต้มยำกับหมูสับปั้นเป็นก้อนๆ เอาไว้ให้เยอะพอ (ไม่ทำแบบทะเลนะ) กว่าจะทำเสร็จก็ดึกแล้ว เหมือนได้ไปนั่งกินที่ร้านเจ๊โอวยังไงยังงั้น
ความเหมือน
- หน้าตา 4/5
- รสชาติ 4.5/5
Menu 04:
ไข่พะโล้กระดูกอ่อน / ครัวอัปสร
เมนูไข่ฟูปูของครัวอัปสร สำหรับเราก็ยังไม่สู้เมนูไข่พะโล้ เพราะการจะหาไข่พะโล้ที่รสอร่อยถูกใจแถมยังทำจากไข่ไก่ นี่เป็นเรื่องพลิกแผ่นดินหาอยู่เหมือนกัน ร้านข้าวแกงส่วนใหญ่มักจะทำไข่พะโล้จากไข่เป็ด แถมรสชาติยังหวานแบบชั้นเชิงน้อยไปนิด ไอ้เรามันคนรักไข่พะโล้ก็เลยลงดีเทลเยอะหน่อย และเราว่าครัวอัปสรทำได้ถูกใจเลย ปัญหาคือตอนมาทำเองเราดันไปหาเอาเครื่องพะโล้ที่เจอในซูเปอร์มาร์เก็ตมาใช้ (ไม่รู้ว่าเก๋าสู้ตามตลาดไหม) และตอนใช้ก็เหมือนจะใส่ตุ๋นนานไปหน่อย ก็เลยหอมหวานกลิ่นอบเชยโป๊ยกั๊กแบบเว่อร์เกินเบอร์ความต้องการ แต่ถึงอย่างนั้นก็อร่อยอยู่ดี เมนูโปรดนี่
ความเหมือน
- หน้าตา 5/5
- รสชาติ 4/5
Menu 05:
สุกี้ญี่ปุ่น / อะกิโยชิ
ร้านบุฟเฟต์ที่ปกติเราไปกินแบบไม่บุฟเฟต์เสมอ และเวลาไปก็มักจะรักพี่เสียดายน้องทุกทีเลยต้องสั่งทั้งเตาปิ้งและหม้อสุกี้มาวางคู่กัน แต่วันที่ต้องเลือกทำเองบ้าง ก็เลยไปขอเอาหม้อสุกี้สีแดงของหม่าม้า (เก่าระดับ ยุค 90) มาใช้ ปรุงซอสสุกี้แบบง่ายที่สุดด้วยการซื้อหมูสไลด์และผักจากตลาด (ไชเท้าและต้นหอมญี่ปุ่นนี่ขาดไม่ได้เลยนะ) ซื้อซุปสุกี้แบบสำเร็จรูป มาปรุงต่อเพิ่มด้วยน้ำ เกลือ และน้ำตาลให้ได้รสถูกใจ เป็นกิจกรรมที่บรรเทาใจในวันเสาร์อาทิตย์ได้พอสมควรเลย
ความเหมือน
- หน้าตา 3/5
- รสชาติ 4/5
Menu 06:
หมูสับเกี่ยมบ๊วย / แสงชัยโภชนา
เรื่องมีอยู่ว่า ในวันที่ไปขอเอาหม้อสุกี้เก่ากึ้กจากแม่นั้น ดันได้ของแถมมาเป็นบ๊วยเค็มดองใส่โหล แม้ว่าแม่จะบอกให้เอาไปชงน้ำกินสดชื่น แต่ในหัวกลับมีภาพหมูสับลอยละล่องเต็มชามเกี่ยมบ๊วยของร้านแสงชัย แว้บเข้ามาในหัวแบบทันควัน!
ตอนรีเสิร์ชหาข้อมูลวิธีทำหมูสับเกี่ยมบ๊วย ก็พบว่ามีหลายสูตรมากๆ แต่ไม่มีสูตรไหนที่มีมันลอยๆ อยู่บนผิวน้ำแบบแสงชัย ตอนทำเลยตัดสินใจลองคิดค้นด้วยตัวเอง ด้วยการนำหมูลงไปผัดขลุกขลิกกับน้ำมันและกระเทียมก่อน ค่อยเทน้ำตามลงไป แล้วปล่อยให้หมูสุกในน้ำเดือดอีกที ผลลัพธ์หน้าตาดูดีใช้ได้ ส่วนรสชาตินี่เรียกว่าภูมิใจเลยล่ะ
ความเหมือน
- หน้าตา 3.5/5
- รสชาติ 4.8/5
Menu 07:
เกี๊ยวทอด / เจ๊เจี่ยเย็นตาโฟ
อันนี้คุณผู้ชายรีเควสอยากทำเอง เพราะติดใจว่าทำไมเจ๊เจี่ยร้านเย็นตาโฟแถวสะพานเหลือง ถึงขายเกี๊ยวทอดดีขนาดนั้น ทอดก็หมด ทอดก็หมด แล้วถ้าเราทอดเองล่ะจะเหมือนไหม ก็เลยเป็นที่มาของการซื้อแผ่นเกี๊ยวยี่ห้อนำชัย ปั้นหมูสับปรุงรสเป็นก้อนใส่ลงไป แล้วลองไปทอดด้วยน้ำมันน้อยๆ กระทะแบนๆ ที่บ้านดูบ้าง โดยไม่ได้หาข้อมูลอย่างรอบคอบ ผลลัพธ์รอบที่ 1 จึงได้เกี๊ยวหมูไหม้ๆ ก่อนจะเรียนรู้จนได้เกี๊ยวใกล้เคียงในผลลัพธ์รอบที่ 2 บทเรียนที่ได้รับคือทำไส้ให้อร่อย อย่าใส่ไส้เยอะ อย่าใช้ไฟแรง และอย่าทอดนาน
ความเหมือน
- หน้าตา 2.5/5
- รสชาติ 4/5
Menu 08:
ขนมกล้วย / เจ๊ฮุ้น ขนมหวาน
ขนมกล้วยร้านโปรดมากๆ ณ ตลาดท่านา นครชัยศรี ถึงขั้นบางทีก็มุ่งมั่นขับรถไปกันเพื่อซื้อสิ่งนี้ คือมันเป็นขนมกล้วยที่ซ่อนเปรี้ยวกำลังดี เนื้อเนียนหนับนุ่ม กินได้เรื่อยๆ แบบไม่เลี่ยนสักที ซื้อมาทีไรก็ต้องตักกินในรถเลยเพราะมันหอมยั่วยวน แต่พอคิดว่าจะทำเองแล้วไซร้ (เนื่องจากกินกล้วยที่บ้านไม่ทัน โอ๊ย สุกพร้อมกัน) ดันหาซื้อมะพร้าวขูดและใบเตยไม่ได้ เลยไม่อยากยอมแพ้ เดินไปตัดใบตองในบ้านมาห่อแล้วกลัดด้วยไม้จิ้มฟันงงๆ มาบรรจุเป็นภาชนะซะเลย เอาให้แอดวานซ์กว่าเจ๊ฮุ้น สรุปว่าหน้าไม่เหมือน แต่อร่อยย้อมใจได้เลยนะ
ความเหมือน
- หน้าตา 2/5
- รสชาติ 4.5/5
Menu 09:
สังขยาฟักทอง / ไม่มีร้านต้นฉบับแน่ชัด
เมนูนี้แถมมาจากความฮึกเหิมที่ทำขนมไทยได้ แล้วมีฟักทองอยู่ในบ้าน เลยคิดว่าต้องทำอันนี้ด้วย เห็นขายในท้องตลาดขายกันเกลื่อนดีนัก (แต่จริงๆ ชอบกินฟักทองนึ่งเฉยๆ มากกว่านะ) ความสนุกสุดใจของเมนูนี้คือเราต้องเจาะรูฟักทองเล็กๆ ด้านบน หยอดสังขยาทำเองสูตรหวานน้อยลงไป แล้วเอาเข้าตู้เย็นไว้ พอถึงเวลากินก็เอามาผ่า โพละ! กลายเป็นสังขยาฟักทอง! มหัศจรรย์ใจ!
ความเหมือน
- หน้าตา 5/5
- รสชาติ 4.5/5
Menu 10:
ข้าวปั้นแซลม่อน / ร้านสะดวกซื้อ
อย่าว่ากันถ้าอีกหนึ่งเมนูโปรดของฉันคือโอนิกิริตามร้านสะดวกซื้อ ถ้าไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นจะแวะซื้อชิมวันละยี่ห้อ พอมาอยู่ไทย นี่คืออาหารกันตายในยามจำเป็นที่ต้องกินร้านสะดวกซื้อ แต่ขอทำแบบง่ายๆ บ้านๆ หน่อย ซื้อข้าวญี่ปุ่นมาหุงเอง ซื้อแซลม่อนชิ้นๆ ที่ลดราคาจากซูเปอร์มาอบมั่วๆ ในเตาติ๊ง ผสมผงโรยข้าวรสแซลม่อน (แต่ไม่มีมิรินเหมือนต้นฉบับ) เวลากินก็เอามาปั้นคลุกเคล้ากัน แปะสาหร่ายแผ่นใหญ่ แล้วเวลากินก็จิ้มโชยุกับวาซาบิเพิ่มรสชาติเอา เออ ทั้งหน้าตาและรสชาติเผลอๆ จะดีกว่าที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้ออีกนะ เพราะมันสดใหม่ เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้ทำยากอย่างที่คิด
ความเหมือน
- หน้าตา 4/5
- รสชาติ 5/5
บันทึกไว้ว่า ช่วงนี้คงจะทำอาหารกินเองด้วยวิธีคิดแบบนี้เรื่อยไป จนกว่าจะกลับไปพบกันที่ร้านได้เหมือนเดิมนะ : )
Read More:
รีวิวสินค้าป้ายเหลือง ที่ทั้งถูกและดีต่อโลก!
ตามล่าอาหารใกล้หมดอายุ ที่ราคาดีต่อกระเป๋าตังค์และยังดีต่อโลก
Urban Foraging BKK บันทึกเด็ดดอกไม้กินจริงๆ ไม่ได้เล่นขายของ
ความสนิทสนมกับต้นไม้ในซอยบ้านนี่แหละ ที่จะทำให้เรากลมเกลียวกับโลกใบนี้มากขึ้น
ภารกิจพิชิตตู้เย็น! เคลียร์ทุกชั้น กินให้ทันก่อนหมดอายุ
สำรวจพื้นที่ในตู้เย็น แก้ต้นตอขยะอาหารล้นบ้าน