แม้จะเป็นการอ่านกันเอง ยืมกันเอง รีวิวกันเองในวงเล็กๆ แต่การได้เห็นว่าช่วงนี้เพื่อนใกล้ตัวสนใจหนังสือเล่มไหน ได้มีตัวเลือกหนังสือที่หลากหลายแบบไม่ต้องเสียเงินเพื่อเป็นเจ้าของ ได้ผลัดกันแปะป้ายจอง หนังสือ ที่อยากอ่าน และได้แลกเปลี่ยนความคิดกันหลังอ่านจบ แค่นี้ก็คิดถูกที่ได้พาหนังสือในกองดองออกจากชั้นวางมาเล่นสนุกด้วยกันแล้ว
ไหนๆ ทำแล้วเลยขอมาแชร์ว่าวิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางสู่ Conscious Lifestyle ที่ทำได้ง่าย อ่านวนกันไป และสนุกไม่ใช่เล่น
หนังสือในร้านเช่าอ่านฟรีของออฟฟิศเรามีตามนี้ ของคนอื่นมีเล่มไหนบ้าง ถ้ามีโอกาสได้แชร์หนังสือกับเพื่อนแบบนี้บ้าง แชร์มาเล่าให้กันฟังได้นะ
#ใหม่แนะนำ
หนังสือ : A Collection of Canned Food Labels Made In Japan
สำนักพิมพ์ : Seigensha Art Publishing, Inc.
หนังสือรวมภาพฉลากอาหารกระป๋องคลาสสิกของญี่ปุ่นช่วงยุคเมจิถึงโชวะมากกว่า 550 แบบ ไม่ซ้ำ แถมมีหลากหลายหมวดตั้งแต่ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไปจนถึงซีฟู้ด
ใครรักการดูฉลากอาหารสไตล์วินเทจ เรโทรต้องชอบแน่ๆ เพราะนอกจากจะได้เห็นวิธีการออกแบบ Logo และ Typo ที่สะท้อนความยูนีคของแต่ละแบรนด์ ยังมีภาพประกอบที่มีสีสันและองค์ประกอบสุดละเอียดให้ดูแบบอิ่มตา เห็นกระทั่งดีเทลการพิมพ์สมัยก่อน
เสริมสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากลุกออกไปสำรวจฉลากสินค้าตามร้านโชห่วยจริงๆ จนอยากจะรวบรวมมาทำเป็นหนังสือรวมฉลากสินค้า Made in Thailand บ้างเลย
#เต้แนะนำ
หนังสือ : เรียงตามตัวอักษร
สำนักพิมพ์ : ดู๊ดสวีท
เรื่องสั้นแสนสวิงของพงษ์สรวง ชุบ (aka โน้ต dudesweet) หน้าปกดูเรียบร้อยด้วยพยัญชนะตรงกริด เปิดไปเจอกิมมิกเรื่องสั้นและเรื่องสั้นมากรวม 42 เรื่องที่ถูกเรียงไล่ไปตามตัวอักษร เช่น ตอนที่ 1 เกมกด ตอนที่ 2 ของใช้ส่วนตัว ตอนที่ 42 ฮัลลูซิเนต สตอรีแรนด้อม แต่บางจังหวะก็จัดแจงให้อ่านตามลำดับก่อนหลัง สรุปรวมๆ คือคลุกมาหลายอารมณ์ในหมวดสนุก ป่วนปั่น เราะร้าย หวือหวา อะไรวะ แต่บางตอนก็คมคาย เรียบง่าย และจุกใจเป็นพิเศษ ซึ่งสิ่งที่ชอบมากๆ คือในความไม่สำบัดสำนวน แต่รู้สึกได้ว่าคำต่างๆ ที่เรียงต่อกันมาถูกคิดและเลือกมาอย่างดี
จริงๆ นอกจากตัวหนังสือในเล่ม อีกเหตุผลที่สนใจเล่มนี้เป็นพิเศษ คือความกวนตีนอันเป็นซิกเนเจอร์ของพี่เขา ทั้งปกหลังหนังสือที่ใส่ภาพพอร์ตเทรตขาวดำของตัวเองแบบพ็อกเก็ตบุ๊กยุค 90s การตั้งโต๊ะขายหนังสือในซอยอารีย์ 5 ตอนที่ทุกคนแห่มาถ่ายรูปกับกำแพงเฟื่องฟ้า หรือทำโปรโมชั่นฝากขายกับร้านครูปู ข้าวแกงปักษ์ใต้ ในซอยอารีย์ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องในเล่ม แต่มันทำให้อ่านสนุกขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
#เกียบแนะนำ
หนังสือ : คุณยูโกะในห้องของผม เล่ม 01
สำนักพิมพ์ : Siam Inter Comics
ปกติติดการไถคลิป TikTok ไปวันๆ พอคิดอยากจะหาหนังสืออ่าน ก็เลยอยากได้อะไรที่เห็นภาพไปด้วย และแน่นอนว่าต้องสนุก!
ลงเอยที่การตามหาและคัดสรรมังงะออกใหม่มาอ่าน ชอบเล่มนี้ที่มีความโรแมนติกคอเมดี้ ถึงจะไม่ถึงขั้นการ์ตูนตาหวาน แต่อ่านแล้วก็อวลไปด้วยความรู้สึกดีๆ
เล่มนี้เป็นเรื่องราวระหว่างวิญญาณสาวในห้องกับมนุษย์หนุ่มที่มาเช่าห้องมีประวัติ และต้องใช้ชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยกันในห้องนี้ ตอนที่มนุษย์หนุ่มพูดกับผีสาวว่า ‘เป็นผีที่ทำให้คนอบอุ่นดีนะ’ ทำให้เรานี่คิดแทนคุณผีเลยว่าการได้รู้ว่าเรามีความหมายกับคนอื่น หรือการที่เขาเห็นอะไรในตัวเราแม้ว่าเราจะไม่มีตัวตน คงทำให้รู้สึกใจฟูมากเลย เพราะใครๆ ก็อยากเป็นคนสำคัญของใครสักคนนี่นา
ถึงตอนนี้จะยังไม่รู้ว่าสุดท้ายความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร (พึ่งออกมาเล่มแรก) แต่ถ้าอยากอ่านเรื่องราวเบาสมอง ได้ตกตะกอนถึงเรื่องความสัมพันธ์นิดหน่อย ลองหาเล่มนี้มาอ่านได้เลย
ถึงจะมีผีอยู่ในเล่ม แต่ไม่น่ากลัวถึงขั้นไปเล่าให้พี่แจ๊ค The Ghost ฟังหรอก แบร่ :p
#บีแนะนำ
หนังสือ : ฝึกลูกนอนยาว สไตล์คุณแม่ญี่ปุ่น
สำนักพิมพ์: SandClock Books
กำลังจะมีลูกครั้งแรก! และเป็นคนแรกในออฟฟิศที่จะเป็นแม่คน! นี่จึงอาจไม่ใช่หนังสือที่ส่งต่อให้เพื่อนร่วมงานอ่านได้ง่ายๆ แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับแฟนเพจผู้กำลังเรียนรู้การต้องเป็นแม่ (และกังวลว่าจะไม่ได้นอน) ได้
แค่อ่านบทนำแล้วเจอประโยคทำนองว่า ถ้าลูกนอนยาก ร้องงอแงไม่ยอมนอน ความอดทนไม่ใช่สิ่งจำเป็นเสมอไป เราก็ซื้อเลย สแกนสารบัญเผินๆ ดูเป็นฮาวทูที่โอเวอร์อยู่เหมือนกัน คล้ายบอกให้ลองทำตาม 3 วิธีนี้สิ แล้วเบบี๋ที่นอนยากของคุณจะกลายเป็นเด็กหลับง่ายขึ้นทันที แต่ด้วยความที่เป็นหนังสือแปลจากญี่ปุ่น (ชนชาติที่ไม่เคยทำอะไรไม่ละเอียด) ดีเทลกระจุกกระจิกในชุดความรู้ ฮาวทู และความคิดเห็นจากเหล่าคุณแม่ เลยทำให้ข้อมูลทุกอย่างซอฟต์ลง และดักทางปัญหาการนอนของทารกไว้ครบหมด ทำให้คนไม่เคยเป็นแม่อย่างเรา รู้สึกอุ่นใจว่าอย่างน้อยต้องมีสักทางแหละนะ ที่เราจะสู้ปัญหานี้ได้ (แต่ขอให้ไม่เจอดีกว่านะ)
ส่วนที่ชอบคือบทสุดท้าย หลังจากประโคมชุดข้อมูลการร้องไห้และไม่นอนของเด็กมาให้เราเตรียมใจ บทสุดท้ายกลับมาเป็นความในใจของผู้เขียนที่อยากบอกเราจริงๆ ว่าจะรับมือกับสภาวะทางจิตใจของตัวเองยังไง ในช่วงเวลาที่ฮอร์โมนกำลังตกอย่างรุนแรง สิ่งที่ดีที่สุดคือเลือกทางที่เรารู้สึกสบายและเป็นธรรมชาติที่สุด เอาล่ะ จะพยายาม!
ป.ล. อ่านเครดิตเจอว่า อ่าวเฮ้ย! คนออกแบบรูปเล่มคืออาร์ตไดฯ ตัวจี๊ดแห่งออฟฟิศเราเองนี่หว่า ปริญดา เธอแน่มาก ประทับใจคูณสอง (ฮา)
#ป๊อปแป๊ปแนะนำ
หนังสือ : ถ้าอีก 1 ปี ฉันจะต้องตาย…
สำนักพิมพ์ : WeLearn
หนังสือแชร์ประสบการณ์ของหมอที่คอยรักษาผู้ป่วยระยะสุดท้าย อ่านแล้วเหมือนได้เตรียมตัวล่วงหน้าก่อนวาระสุดท้ายจะมาถึง ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาว่าเราเองก็อยากจะใช้ชีวิตแบบไม่คิดเสียใจทีหลัง
แถมถ้าวันไหนรู้สึกว่าหาคำตอบให้กับชีวิตไม่ได้ หรือกำลังจมอยู่กับความรู้สึกบางอย่าง เราคงจะหยิบขึ้นมาอ่านอีกครั้งแน่นอน เพราะหนังสือเล่มนี้เป็นประหนึ่งคัมภีร์ช่วยตอบสิ่งที่ค้างคาใจ ค่อยๆ ทำให้เราสังเกตเห็นชิ้นส่วนต่างๆ ในชีวิตมากขึ้น
ถึงชื่อหนังสือจะดูหนักหน่วงไปนิด แต่อยากให้คนที่อาจกำลังมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองได้อ่านนะ หนังสือเล่มนี้จะทำให้รักและเคารพตัวเองมากขึ้น มากๆ เลย
#โอ๋แนะนำ
หนังสือ : แม่มดกิกิผจญภัย ตอน ไปรษณีย์ด่วนแม่มด
สำนักพิมพ์ : Biblio
ถ้าถามว่าอยากให้โลกคู่ขนานของตัวเองเป็นตัวละครไหนในหนังสือ ขอตะโกนสุดเสียงว่า “อยากเป็นแม่มดกิกิค่ะ!”
หนังสือชุด แม่มดกิกิผจญภัย มีทั้งหมด 6 เล่ม เราเลือกเล่มแรกมาแนะนำปูทางให้ลองทำความรู้จักกิกิ แม่มดที่ใช้ไม้กวาดเป็นพาหนะคู่ใจ อยู่กับแมวดำที่พูดภาษาคนได้ (แต่ไม่มีใครได้ยินหรอกนะนอกจากกิกิ!)
ชาวแม่มดมีธรรมเนียมว่าเมื่ออายุครบ 13 ปี จะต้องออกเดินทางไปลงหลักปักฐานทดลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองในเมืองไหนก็ได้ที่ยังไม่มีแม่มดอาศัยอยู่ กิกิจึงเริ่มออกเดินทางค้นหาเมืองที่ใช่ พกความหวังไปเต็มเปี่ยมว่าเธอจะสามารถทำสิ่งที่มีความหมายให้ชาวเมืองได้ แต่ถึงกิกิจะเป็นแม่มด ความสามารถพิเศษที่มีก็เพียงแค่ขี่ไม้กวาดได้เท่านั้น เธอจึงตัดสินใจเปิดร้านไปรษณีย์ด่วนส่งของในเมืองแลกกับอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เงิน งานที่พาเธอไปเจอทั้งปัญหาให้ต้องแก้ไข เรื่องน่าเศร้าใจ รวมไปถึงเรื่องดีต่อใจชวนให้ยิ้มออก
ก่อนเปิดอ่านเราคิดว่าเล่มนี้คงเป็นหนังสือสำหรับเด็ก แต่ไม่ใช่เลย เรื่องราวที่เล่าในหนังสือทั้งละเอียดและลึกซึ้ง พาให้ผู้ใหญ่อย่างเราได้ปัดฝุ่นในใจ หวนกลับไปสัมผัสกับความบริสุทธิ์ของจิตใจเหมือนเมื่อตอนยังเป็นเด็ก และหันมามองโลกนี้ใหม่ แบบสว่างสดใสขึ้นเยอะ
หวังว่าผู้อ่านคนต่อๆ ไป จะเจอสิ่งนี้ไปด้วยกัน หรือใครเจออะไรที่ต่างไปจากนี้ มาเล่าให้ฟังได้นะ
#มดแดงแนะนำ
หนังสือ : สถาปัตยกรรมคณะเรี่ยราด
สำนักพิมพ์ : Salmon Books
ชัชวาล สุวรรณสวัสดิ์ เป็นสถาปนิกที่รักการเดิน การเดินเลยพาเขาไปเจอกับสถาปัตยกรรมเรี่ยราดริมทางที่เห็นแล้วรู้สึกถึงความเป็นไทยแลนด์ อย่างพื้นที่เก็บหมวกกันน็อกของพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่ต่อโครงสร้างกับรูเสาไฟฟ้า รั้วเหล็กแหลมหน้าบ้านที่กลายเป็นพื้นที่คว่ำแก้วน้ำ กล่องกระดาษลังที่คลี่ออกแล้วกลายเป็นอุปกรณ์กันแดดให้รถ เก้าอี้ที่ถูกเปลี่ยนเป็นกรวยห้ามจอด หรือแม้แต่สไลเดอร์ปล่อยปลาที่วัด
เมื่อเห็นว่าคนไทยสุดจะครีเอทีฟ และมีสกิลของการเป็น UX/UI Designer ฝังอยู่ใน DNA เขาจึงขุดวิชาสเก็ตช์ภาพที่มีติดตัว บันทึกสิ่งที่เขาเห็นตลอด 365 วันลงในหนังสือเล่มนี้ แต่ไม่เพียงแค่ถ่ายทอดให้เราเห็นถึงความพยายามที่จะดีไซน์และดัดแปลงเพื่อให้ใช้งานได้ตอบโจทย์กับความต้องการของคนไทย ชัชวาลยังชี้ชวนให้เห็นถึงปัญหา และตั้งคำถามถึงการออกแบบเมืองที่ไม่ได้คิดถึงวิถีชีวิตของผู้คนมากนัก
อ่านแล้วเหมือนได้แว่นตาใหม่ เดินไปจุดไหนก็สังเกตเห็นสถาปัตยกรรมคณะเรี่ยราดเต็มสองข้างทาง และแน่นอนว่าแทนที่จะมองเป็นความเคยชิน เราเองก็ได้มุมมองใหม่ เห็นไปถึงปัญหาของผู้คนในเมืองซึ่งลงมือสร้างสถาปัตยกรรมเหล่านั้นมากขึ้นด้วย
ว่าแล้วก็อยากชวนคนรอบตัวมาจัดประกวดว่าสถาปัตยกรรมข้างทางที่เขาคิดว่าเจ๋งที่สุดเท่าที่เคยเห็นคืออะไร จากที่เห็นส่วนหนึ่งของความครีเอทีฟของคนไทยในเล่ม เชื่อว่าต้องมีที่น่าตื่นใจอีกเพียบแน่
#ไอแอลไอแนะนำ
หนังสือ : เที่ยวไปนึกถึงคนอื่นเขา
โดย : ILI U
สำหรับใครที่อ่านเล่มก่อนหน้าแล้วคิดว่าอยากจะหาเวลาไปสำรวจเมืองบ้างจังเลย ไอแอลไอยูขอตัดเข้าสู่โฆษณา ป้ายยาเล่มนี้!
สมุดบันนึก คือคู่มือเดินเที่ยวย่านคลองสานด้วยตัวเอง ที่พวกเราตั้งใจทำมากกกกกก อยากให้คนออกไปเดินเที่ยวแบบนึกถึงพี่ป้าน้าอาที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ ในเล่มจึงพาคนอ่านไปเคาะประตูบ้าน เรียกสถาปนิก ศิลปิน เจ้าของคาเฟ่ และทายาทของโรงน้ำปลาประจำย่าน ออกมาเล่าเรื่องราวและความสนุกที่ได้ใช้ชีวิตที่นี่ให้ฟัง
เชื่อไหมว่าเล่มนี้มีเวทมนตร์ ทำคนรีบผูกเชือกรองเท้า ออกไปตะลอนคลองสานมานักต่อนัก
กดเป็นเจ้าของกันได้ที่นี่ bit.ly/4cBAuKn ราคา 299 บาทเท่านั้น ขายกันดื้อๆ แบบนี้เพราะอยากแนะนำจริงๆ จะเก็บไว้ในกองดองก่อน หรือเตรียมปักวันไปเดินคลองสานเลยก็ได้หมด!
มีบทความแนะนำให้อ่านต่อ!
‘ตามล่า’ หนังสือที่อยากได้จากร้านมือสอง
Read More:
ใส่มาส์กเดินเล่นบางกอกดีไซน์วีค แล้วมองหาความแคร์แบบคิวท์ๆ
แวะไปเยี่ยมสคัลป์เจอร์คิวท์แบบแคร์โลกของ Teaspoon Studio
ยกออฟฟิศไปเวิร์กช็อป ‘ Risograph ’ งานพิมพ์ที่ใจดีกับโลกมากกว่าที่คิด!
ลงชื่อเป็นนักเรียนยกออฟฟิศ ไปรู้จริง ทำจริง พิมพ์จริง รู้จักงานพิมพ์ที่ไม่ได้แค่สวยยูนีคอย่างเดียว แต่เป็นกระบวนการพิมพ์ที่ดีต่อโลกและเรามากกว่าที่คิด!
ตามหาที่นั่งทำงาน สะดวก ถูกและดี ในกรุงเทพฯ มีอยู่จริงปะ?
ถ้าอยากออกไปทำงานนอกบ้าน จะไปนั่งที่ไหนได้บ้างนะ